Logo My Travel Site

จังหวัดสมุทรสาคร


คำขวัญประจำจังหวัดสมุทรสาคร  "เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์"

จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดเล็กๆ ในเขตพื้นที่ตอนล่างของภาคกลาง บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน ตั้งอยู่ห่างจากทะเลอ่าวไทยเพียง 2 กิโลเมตร เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะสัตว์น้ำทะเล จึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมงที่ทันสมัยนับพันลำ และสามารถจับสัตว์น้ำได้เป็นปริมาณที่มากที่สุดของประเทศ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีนาเกลือมากที่สุดด้วย

ในด้านประวัติศาสตร์ สมุทรสาครเป็นเมืองที่มีบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เมื่อคราวพระเจ้าเสือเสด็จประพาสชลมารค จึงกำเนิดเป็นเรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองในปัจจุบัน

รู้จักสมุทรสาคร
สมุทรสาครมีเนื้อที่ประมาณ 872.34 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 545,216 ไร่ จัดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 72 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตอนล่างของภาคกลาง บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน ห่างจากทะเลอ่าวไทยเพียง 2 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1-2 เมตร มีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านตอนกลางของจังหวัดตามแนวเหนือใต้ และไหลลงสู่อ่าวไทยที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร รวมระยะทางที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสาครประมาณ 70 กิโลเมตร

พื้นที่ตอนบนในเขตอำเภอบ้านแพ้วและอำเภอกระทุ่มแบนมีความอุดมสมบูรณ์ของดิน และมีโครงข่ายแม่น้ำลำคลองเชื่อมโยงถึงกันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 170 สาย จึงเหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชนานาชนิด และบางส่วนเป็นย่านธุรกิจ อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ส่วนพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร อยู่ติดชายฝั่งทะเลยาว 41.8 กิโลเมตร จึงเหมาะกับการประกอบอาชีพประมงทะเล เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง และทำนาเกลือ

สมุทรสาคร เดิมเรียกกันว่า ท่าจีน เพราะเป็นตำบลใหญ่อยู่ติดอ่าวไทย มีชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีนนำสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายกันมาก จึงเรียกติดปากว่า ท่าจีน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2091 ในสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา โปรดให้ยกบ้านท่าจีนขึ้นเป็นเมือง สาครบุรี เพื่อเป็นหัวเมืองสำหรับเรียกระดมพลเวลาเกิดสงครามกับพม่า และเป็นเมืองหน้าด่านป้องกันผู้รุกรานทางทะเล

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็นเมือง สมุทรสาคร

ในปี พ.ศ. 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระบรมราชโองการให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า เมือง เป็น จังหวัด ทั่วทั้งประเทศ เมืองสมุทรสาครจึงได้เปลี่ยนเป็น จังหวัดสมุทรสาคร มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนคำว่า มหาชัย ที่คนชอบเรียกกันนั้น เป็นชื่อคลองที่สมเด็จพระสรรเพชญที่ 8 แห่งกรุงศรีอยุธยา โปรดให้ขุดขึ้นเพื่อตัดความคดเคี้ยวของคลองโคกขามแต่เดิม ลัดจากเมืองธนบุรีเป็นแนวตรงไปออกปากน้ำแทน แต่ยังไม่ทันเสร็จก็ทรงสวรรคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระสรรเพชญที่ 9 (ขุนหลวงท้ายสระ) จึงได้โปรดให้ขุดคลองต่อจนแล้วเสร็จ และได้พระราชทานนามว่า คลองมหาชัย ซึ่งต่อมา บริเวณฝั่งซ้ายของปากคลองได้เกิดชุมชนขนาดใหญ่ชื่อว่า มหาชัย ขึ้น จึงเป็นที่นิยมเรียกขานกันจนติดปากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สมุทรสาครแบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว

สมุทรสาครอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดสมุทรสาครได้อย่างสะดวกหลายวิธี ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ

การเดินทางไป สมุทรสาคร

  • โดยรถไฟ:

การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟสายแม่กลอง ออกจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปยังจังหวัดสมุทรสาคร (สถานีมหาชัย) ทุกวัน ระยะทาง 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางและราคาตั๋วโดยสารของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเว็บไซต์ www.railway.co.th และจองตั๋วรถไฟก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 3 วัน ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2220-4444 ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

  • โดยรถยนต์:

จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้หลายเส้นทาง ดังนี้

1. จากแยกบางปะแก้ว ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ หรือถนนพระรามที่ 2) ผ่านที่ทำการเขตบางขุนเทียน ด่านชั่งน้ำหนักเอกชัย ถึงสี่แยกมหาชัย ประมาณกิโลเมตรที่ 28 เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร รวมระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร

2. จากดาวคะนอง ใช้ถนนเอกชัย ผ่านสะพานบางขุนเทียน วัดสิงห์ แยกบางบอน ตำบลคอกกระบือ ด่านชั่งน้ำหนักเอกชัย เคหะชุมชนมหาชัย เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร

3. จากสี่แยกท่าพระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ถึงหนองแขม แยกซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 81 ถึงแยกถนนเอกชัย เลี้ยวขวาไปตามถนนเอกชัย เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร

หรือใช้ถนนเพชรเกษม เลยบางแคแล้วแยกซ้ายเข้าถนนวงแหวนรอบนอก จนไปพบกับถนนเอกชัย วกรถกลับเข้าถนนเอกชัย หรือตรงไปเข้าถนนธนบุรี-ปากท่อ เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร

4. จากสะพานพระปิ่นเกล้า ใช้ถนนบรมราชชนนี แล้วตัดเข้าสู่ถนนเพชรเกษมได้ 3 ทาง คือ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนพุทธมณฑลสาย 5 จากนั้นเลือกใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ จากถนนพุทธมณฑลสาย 2 เลี้ยวขวาเข้าถนนเอกชัยสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร หรือใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนพุทธมณฑลสาย 5 เข้าถนนเศรษฐกิจ 1 ที่แยกอ้อมน้อย ผ่านอำเภอกระทุ่มแบน สู่ตัวเมืองสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งตัดผ่านถนนเอกชัยและถนนธนบุรี-ปากท่อได้อีกด้วย

  • โดยรถประจำทาง:

มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-สมุทรสาคร ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 www.transport.co.th

ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com

การเดินทางภายใน สมุทรสาคร

ในตัวจังหวัดสมุทรสาครมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม

รถสองแถว มีวิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมารถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง

รถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย

ระยะทางจากอำเภอเมืองสมุทรสาครไปยังอำเภอต่างๆ คือ

-อำเภอกระทุ่มแบน 10 กิโลเมตร
-อำเภอบ้านแพ้ว 15 กิโลเมตร


จองโรงแรม จองที่พัก จองห้องพัก จองรีสอร์ท จองโรงแรมที่พัก


Thanks for visiting!

TourTravelThai.com